ขอเชิญพี่น้องผองเพื่อนคนในพิธีกรรม ผู้จัดวัด นักขับร้อง ผู้อ่าน และเด็กช่วยพิธีกรรม มาร่วมชุมนุมกันเพื่อเพิ่มพูนความรู้พิธีกรรม ในงาน “วันรวมพลคนในพิธีกรรม ครั้งที่ 2 ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ” ซึ่งจะจัดในวันที่ 22 -23 พฤศจิกายน 2003 นี้ รายละเอียดต่าง ๆ  ของงานจะค่อยๆ แจ้งให้พี่น้องได้ทราบในโอกาสต่อไป

  ขาวประชาสัมพันธ ์   Click!

:: ผู้อ่านพระคัมภีร์ ::
       อันที่จริงหน้าที่การอ่านบทอ่านพระคัมภีร์ในพิธีกรรมเป็นของสามเณรผู้ศึกษาปรัชญาและเทววิทยาแล้ว 4-5 ปี จึงได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่นี้อย่างเป็นทางการ และมิได้มีความหมายแค่อ่านออกเสียงให้ถูกต้อง เข้าใจความหมายเท่านั้น อ่านต่อ

:: ศิลปศักดิ์สิทธิ์ ::
       มหาวิหารรุ่นแรกตามแบบของคริสตชนได้เกิดมีขึ้นมากมาย ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 4 ถึงศตวรรษที่ 6 และต่อเนื่องไปจนกระทั่ง สมัยสังคายนา เมืองเตร็นท์ (1545-1563) เป็นช่วงระยะเวลาถึง  11 ศตวรรษ เป็นช่วงเวลาอันยาวนาน สถานที่ประกอบศาสนพิธีของคริสตชน ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย อ่านต่อ

:: ผู้ช่วยพิธีกรรม ::
       น้อง ๆ เด็กช่วยพิธีกรรมที่รัก อริยาบทอีกประการหนึ่งที่เราทำเป็นประจำในพิธีกรรม คือ การนั่ง ดังนั้นวันนี้เราจึงมาดูกันถึงความหมายของการนั่งในพิธีกรรม   การนั่งเป็นอิริยาบถของอาจารย์สอนศิษย์ อ่านต่อ


:: พระัคัมภีร์และบทเทศน์ ::
      
พระศาสนจักรเชื่อเสมอมาและเชื่อเสมอไปว่า แม่พระนี้เองคือผู้มีส่วนอย่างใกล้ชิดในการไถ่บาปของพระบุตร หรือกล่าวได้ว่า พระนางคือผู้ตอบรับ และร่วมมือกับการช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นของพระเยซูเจ้า อ่านต่อ

การฉลองพระธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้าในพิธีบูชาขอบพระคุณ

โดย คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช

1. สิ่งที่สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 เน้นในเรื่องของพิธีกรรม คือ การมีส่วนร่วมของคริสตชน (Active Participation    - การมีส่วนร่วมภายนอก   - การมีส่วนร่วมในจิตใจ

2. เน้นการมีส่วนร่วมในจิตใจ คือ การมีส่วนร่วมในธรรมล้ำลึกของพระเยซูเจ้าที่คริสตชนทำการฉลอง

3. การถวายบูชาขอบพระคุณเป็นศูนย์กลางของชีวิตคริสตชนทั้งหมด กิจการนี้เป็นจุดยอดของกิจกรรมที่พระเจ้าทรงกระทำในพระคริสตเจ้าเพื่อทรงบันดาลความศักดิ์สิทธิ์แก่โลก และยังเป็นจุดยอดของคารวกิจที่มนุษย์แสดงต่อพระบิดา เมื่อเขานมัสการพระองค์ผ่านทางพระคริสตเจ้าพระบุตรของพระเจ้า ในองค์พระจิตเจ้า (เทียบ SC 10)

4. พิธีบูชาขอบพระคุณเป็นการฉลองพระธรรมล้ำลึกปัสกา “ในการเลี้ยงอาหารค่ำครั้งสุดท้ายนั้น องค์พระผู้ไถ่ของเราทรงถวายพระกายและพระโลหิตของพระองค์เป็นบูชาขอบพระคุณ เพื่อทำให้การถวายบูชาบนไม้กางเขนดำรงอยู่ตลอดไปจนกว่าจะเสด็จกลับมา ทั้งนี้เพื่อทรงมอบอนุสรณ์แห่งการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ไว้ให้แก่พระศาสนจักร ซึ่งเป็นเสมือนพระชายาที่รักของพระองค์” (SC 47)

5. คำว่าจงทำดังนี้เพื่อระลึกถึงเราเถิด มีความหมายสองประการ คือ ทำอย่างที่พระเยซูเจ้าทรงทำในชีวิต หรือ ทำพิธีบูชาขอบพระคุณ  อ่านเรื่องเอมมาอุส

6. นอกจากนั้นในพิธีขอบพระคุณ เรายังระลึกธรรมล้ำลึกการไถ่กู้ตลอดช่วงเวลาแต่ละปี เพื่อทำให้ธรรมล้ำลึกเหล่านี้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ (เทียบ SC 102)(IG 16) ศูนย์กลางคือธรรมล้ำลึกปัสกา

7. ธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้าแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ ๆ คือ ธรรมล้ำลึกการรับเอากาย (เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าและเทศกาลคริสตสมภพ) ธรรมล้ำลึกในการดำเนินชีวิตของพระองค์ (เทศกาลธรรมดา ปีเอ บี ซี)  ธรรมล้ำลึกการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระองค์ (เทศกาลมหาพรต และเทศกาลปัสกา)

8. ดังนั้นทางเดินของปีพิธีกรรมจึงเป็นดังนี้ รอยคอยพระผู้ไถ่ (เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า) พบปะและรู้จักพระองค์ (เทศกาลพระคริสตสมภพ) ติดตามพระเยซูเจ้าและคำสอนของพระองค์ (เทศกาลธรรมดา 4-9 สัปดาห์) เตรียมตัวรับชีวิตใหม่ (เทศกาลมหาพรต) ชีวิตใหม่ที่ได้รับจากพระคริสตเจ้า (เทศกาลปัสกา) ประชากรใหม่มุ่งหน้าสู่พระอาณาจักรของพระองค์ (เทศกาลธรรมดา)

9. การฉลองแม่พระ  การระลึกถึงพระนางมารีย์เป็นการระลึกถึงที่เกี่ยวข้องกับพระธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้า  โดยมีความหมายดังนี้ แม่พระมีส่วนร่วมในพระธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้า และแม่พระเป็นแบบอย่างแก่พระศาสนจักรในการถวายคารวกิจแด่พระเจ้า (SC 103)

10. วันสมโภชสำคัญของพระนางมารีย์ คือ วันสมโภชพระนางมารีย์ ผู้ปฏิสนธินิรมล วันสมโภชพระนางมารีย์ พระชนนนีพระเจ้า และวันสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์

11. ในวันฉลองนักบุญพระศาสนจักรประกาศธรรมล้ำลึกปัสกาซึ่งสำเร็จไปในนักบุญเหล่านี้ ซึ่งได้ทนทรมาน และได้รับสิริโรจนาการกับพระองค์ พระศาสนจักรเสนอให้สัตบุรุษถือตามแบบฉบับของท่าน ซึ่งดึงดูดทุกคนไปหาพระบิดาทางพระคริสตเจ้า กับวอนขอพระคุณของพระเป็นเจ้าอาศัยบุญกุศลของท่าน

12. เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า “การรอคอยการเสด็จมาของพระผู้ไถ่”การเสด็จมาครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และการเสด็จมาครั้งที่สองในวันสิ้นพิภพ

13. ในปีซี สัปดาห์ที่หนึ่งพูดถึงการเสด็จมาครั้งที่สอง สัปดาห์ที่สองพูดถึงยอห์น บัปติสต์ เป็นผู้เตรียมทางของพระผู้ไถ่ สัปดาห์ที่สามพูดถึงคำสอนของยอห์นให้กลับใจเพื่อเตรียมรับพระผู้ไถ่ สัปดาห์ที่ 4 แม่พระเสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ 

14. เทศกาลพระคริสตสมภพ “พระวจนาถทรงรับเอากาย และทรงเผยแสดงพระองค์แก่เรา” (ทูตสวรรค์แจ้งข่าวแก่คนเลี้ยงแกะ พระวรสารคืนวันคริสต์มาส พระเยซูเจ้าบังเกิดมาอย่างยากจน และทรงเกิดมาเพื่อช่วยคนที่มีความทุกข์และความยากลำบากเป็นพิเศษ สังเกตเนื้อหาในพระวรสารจะเน้นที่การบังเกิดของพระองค์ และการที่ทูตสวรรค์แจ้งข่าวดีนี้แก่คนเลี้ยงแกะซึ่งเป็นคนยากจน มิสซารุ่งอรุณคนเลี้ยงแกะไปนมัสการพระกุมาร มิสซากลางวัน พระวจนาถทรงรับเอากายและมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา ซึ่งเป็นบทสรุปของวันพระคริสตสมภพ)

15. พระองค์ทรงแสดงพระองค์ ในครอบครัวของพระองค์ แก่พญาสามองค์(ความรอดสำหรับทุกคน) วันที่พระองค์ทรงรับพิธีล้าง (ภารกิจที่จะทรงกระทำ) และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ (สมโภชพระนางมารีย์ พระชนนีของพระเจ้า)

16. เทศกาลธรรมดา 4-9 สัปดาห์  การติดตามพระเยซูเจ้าและคำสอนของพระองค์ (ปี 2004 มี 7 สัปดาห์)

17. เทศกาลมหาพรต เตรียมสมโภชการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า  ด้วยการเกิดใหม่ (เตรียมรับศีลล้างบาป) ด้วยการกลับใจ (ศีลอภัยบาป) สัปดาห์ที่ 1 พระเยซูเจ้าทรงถูกประจญ การต่อสู้เพื่อเอาชนะอำนาจของปีศาจ และบาป (ภาพของการต่อสู้) สัปดาห์ที่ 2 การจำแลงพระกาย (ภาพของชัยชนะ) ในปีเอ สัปดาห์ที่ 3-5 อ่าน ยน 4 , 9 , 11 น้ำทรงชีวิต การเปลี่ยนจากสภาพบาป (กระหาย) มาเป็นสภาพพระหรรษทาน การักษาคนตาบอด การเปลี่ยนจากความมืดมารับความสว่าง การปลุกลาซารัสให้กลับคืนชีพ การเปลี่ยนจากความตายไปสู่ชีวิต ซึ่งเป็นหัวข้อของศีลล้างบาปนั่นเอง ในปีบีสัปดาห์ที่สาม พระเยซูเจ้าขับไล่พ่อค้าที่พระวิหาร พระองค์บอกให้ทำลายพระวิหารนี้พระองค์จะสร้างขึ้นใหม่ในสามวัน สัปดาห์ที่ 4 คำสนทนากับนิโคเดมัส โมเสสยกรูปงูทองแดงขึ้นอย่างไร บุตรแห่งมนุษย์ก็จะถูกยกขึ้นอย่างนั้น สัปดาห์ที่ 5 เมล็ดข้าวต้องตกลงดิน และเน่าเปื่อยจึงจะเกิดผล จะเห็นว่าพระวรสารให้ภาพการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า ในปีซี สัปดาห์ที่สาม ชาวกาลิลีที่ถูกปิลาตฆ่าตาย คนที่ถูกหอสิโลอัมล้มทับ สอนให้กลับใจเมื่อยังมีเวลา สัปดาห์ที่สี่ เรื่องลูกล้างผลาญ สัปดาห์ที่ห้า เรื่องหญิงทำผิดประเวณี สอนเรื่องการกลับใจ เน้นศีลอภัยบาป

18. อาทิตย์พระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า (แห่ใบลาน)  สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ตรีวารปัสกา

19. เทศกาลปัสกา 50 วัน ปีซี บทอ่านที่ 1 กิจการอัครสาวก บทอ่านที่ 2 วิวรณ์  พระวรสารสัปดาห์ที่ 1 การกลับคืนชีพ (เหมือนกัน) สัปดาห์ที่ 2-3 การประจักษ์มาของพระเยซูผู้กลับคืนชีพ สัปดาห์ที่สองเรื่องของโทมัส (มีคำว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น) สัปดาห์ที่ 3 ปีซีทรงประจักษ์แก่อัครสาวกที่ทะเลสาบทิเบริอัส (มีมื้ออาหาร ศีลมหาสนิทกับการกลับคืนชีพ)  สัปดาห์ที่ 4 นายชุมพาบาลที่ดี (ตายเพื่อแกะ มอบชีวิตเพื่อที่จะกลับมีชีวิตอีก) สัปดาห์ที่ 5-7 คำสอนของพระเยซูตอนอาหารค่ำมื้อสุดท้าย “เรามอบบัญญัติใหม่ ให้ท่านรักกันและกัน”(5) “พระเยซูเจ้าสัญญาจะส่งพระจิต พระจิตจะสอนท่านทุกสิ่ง”(6)

20. สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ ปิดปัสกาด้วยวันสมโภชพระจิต

21. เทศกาลธรรมดา “ประวัติศาสตร์แห่งความรอดในยุคของพระคริสตเจ้า” สิ่งที่พระเยซูเจ้าสอน สิ่งที่พระเยซูเจ้ากระทำ สิ่งที่พระเยซูเจ้าเป็น

22. ในปีซี เทศกาลธรรมดา เราอ่านพระวรสารของนักบุญลูกาจึงอยากจะสรุป สิ่งที่นักบุญลูกาบันทึกเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าคือ  พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เมตตาและให้อภัย ช่วยคนจน คนบาป คนด้อยโอกาสในสังคม (เล่าถึงคนเลี้ยงแกะไปเฝ้าพระกุมาร แทนที่จะเป็นพญาสามองค์ (2,8-18) ต้อนรับหญิงคนบาปในงานเลี้ยงของฟาริสี (7,36-50) ทรงเล่าเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี (10,30-37) เรื่องของซักเคียส (19,1-10) เรื่องลูกล้างผลาญ (15,11-36) ให้เกียรติผู้หญิง ทรงเป็นเพื่อนกับมารีย์และมาร์ธา (10,38-42) รับความช่วยเหลือจากสตรีที่ติดตามพระองค์ (8,1-3) ผู้หญิงแทบเชิงกางเขน (23,49) ผู้หญิงนำเครื่องหอมมาชโลมพระศพ (24,1))  พระวรสารแห่งความชื่นชมยินดี การบังเกิดของยอห์นบัปติส และพระเยซูนำความชื่นชมยินดี (1,14 : 2,10) การที่คนบาปกลับใจทำให้เมืองสวรรค์ชื่นชมยินดี (15,7-10) พวกศิษย์กลับมาด้วยความชื่นชมยินดีหลังจากที่พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ (24,52) พระวรสารแห่งพระจิต พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดด้วยฤทธิ์อำนาจของพระจิต (1,35) พระจิตทรงนำพระองค์ไปยังที่เปลี่ยว (4,1)  พระวรสารแห่งการสวดภาวนา พระเยซูเจ้าสวดภาวนาก่อนเลือกอัครสาวกทั้งสิบสองคน (6,12) ทรงสวดภาวนาก่อนจำแลงพระกาย (9,29) พวกสาวกขอให้พระองค์สอนให้เขาสวดภาวนา (11,1)

23. หลักการสังเกตธรรมล้ำลึกที่ฉลองในวันอาทิตย์เทศกาลธรรมดา สังเกตพระวรสารว่าพูดถึงเรื่องอะไร สังเกตบทอ่านที่ 1 จะสอดคลองกับพระวรสาร เพลงสดุดีจะเป็นการตอบรับบทอ่านที่ 1 ดูบทอ่านที่สองและบทภาวนาของประธานประกอบ